ศิลปิน :
Lomosonic
อัลบั้ม :
Echo & Silence
วันที่ตัวฉันจะตื่น วันที่จะยืนอีกครั้ง
พอแล้วคำว่าพ่ายแพ้
พอแล้วใจที่ยอมให้ใคร ทุกอย่าง
วันที่ตัวฉันจะตื่น วันที่จะยืนอีกครั้ง
พอแล้วคำว่าพ่ายแพ้
พอแล้วใจที่ยอมให้ใคร ทุกอย่าง
ฉันถูกสั่งให้ปล่อยมือ จากโลกที่เรียกว่าความฝัน
เขามาบอกมากดดัน ให้หยุดลงแค่นั้น
รักที่เจ็บจนถอดใจ ทุ่มเทอย่างไม่มีความหมาย
แม้จะเหนื่อยสักเท่าไร ไม่มีใครสน
วันนี้ ตอนนี้ พอแล้ว ถึงเวลา
วันที่ตัวฉันจะตื่น วันที่จะยืนอีกครั้ง
พอแล้วคำว่าพ่ายแพ้
พอแล้วใจที่ยอมให้ใคร ทุกอย่าง
จะปลุกตัวเอง จากฝันที่หลับใหล
จะเปิดดวงตา มองฟ้าที่เปลี่ยนไป
ไม่ยอมให้ใคร มาทำร้ายใจฉันอีก
วันที่ตัวฉันจะตื่น วันที่จะยืนอีกครั้ง
พอแล้วคำว่าพ่ายแพ้
พอแล้วใจที่ยอมให้ใคร ทุกอย่าง
จุดไฟให้ฟ้าสว่าง จะไม่ยอมมองกลับหลัง
พอแล้วคำว่าพ่ายแพ้
พอแล้วความอ่อนแอที่เคย ได้ผ่าน
วันที่ตัวฉันจะตื่น (ลุกขึ้นมา ลุกขึ้นมา ลุกขึ้นมา)
วันที่จะลุกขึ้นมา (ลุกขึ้นมา ลุกขึ้นมา ลุกขึ้นมา ลุกขึ้นมา)
วันที่ตัวฉัน (ลุกขึ้นมา ลุกขึ้นมา ลุกขึ้นมา)
ลองเริ่มใหม่ (ลุกขึ้นมา ลุกขึ้นมา ลุกขึ้นมา)
ที่มา/ความหมายของเพลง:
แสดง
Lyrics : พีระสิฐ พลตาล
Additional Lyrics : เชาวเลข สร่างทุกข์, ประภพ ชมถาวร, อภิชัย ตระกูลเผด็จไกร, ฉัตรชัย งามสิริมงคลชัย
ทำนอง :
Lomosonic, เทอดศักดิ์ ศิริเจน
เรียบเรียง :
Lomosonic, เทอดศักดิ์ ศิริเจน
"ถึงเวลา" (Wake) เพลงแรกจากสตูดิโออัลบั้มสอง พูดถึงความยิ่งใหญ่และความพยายามของมนุษย์ที่ไม่มีอะไรมาขัดขวางเราได้ แต่บางครั้งเรากลับแพ้ใจตัวเอง
ปล่อยเวลา ปล่อยความฝันทิ้งไว้ จนบางครั้งสิ่งเหล่านั้นกลับเลือนหายไปในที่สุด
ทั้งๆที่จริงๆแล้ว ความฝันอยู่กับมันตลอดเวลา ตัวเราทุกคนยิ่งใหญ่กว่านั้น
วันนี้ถึงเวลาหรือยังที่เราจะออกมาทำสิ่งๆนั้น ให้เป็นความจริง เช่น ถึงเวลาหรือยังที่ฉันจะอ่านหนังสือสอบ ถึงเวลาหรือยังที่ฉันจะลดความอ้วน ถึงเวลาหรือยังที่ฉันจะแข็งแรงเพื่อตัวเอง คำว่า "ถึงเวลา" คือ สิ่งที่ Lomosonic อยากจะสื่อสารกับคนฟังทุกคน
ใน Part ของดนตรี คือ ผลลัพธ์จากการทดลองและกลั่นกรองจนเป็นแนวทางใหม่ของวง เสียงกีตาร์คู่ที่สอดประสานกันอย่างลงตัว เทคนิคการ Tapping ที่เป็นเหมือนอาวุธลับของวงจากซิงเกิ้ล "
ใครจะหยุดความเหงา"
ที่โลดแล่นบนจังหวะกลองที่หลากหลาย และยังคงความเป็นซาวน์ของ Lomosonic ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้ "ถึงเวลา" เป็นเหมือนสัญญาณแห่งการกลับมาของพวกเขาบนอนาคตเส้นทางดนตรีอย่างยิ่งใหญ่
ในส่วนของมิวสิควิดีโอ ทีมงานยกกองไปถ่ายทำกันที่สนามบีบี ราบ 11 เพื่อให้ได้ภาพและบรรยากาศที่สื่อความหมายของการต่อสู้และความยากลำบาก ภายใต้การกำกับดูแลโดย "ป้อม" มือกีต้าร์ของวง
ที่ลงทุนทำเองทั้งหมดตั้งแต่ขั้นตอนการถ่ายทำไปจนถึงการตัดต่อ โดยมีการใช้เทคนิคพิเศษคือการถ่ายแบบ Slowmotion เพื่อให้เห็นทุกรายละเอียดของภาพ ปรับแต่งสีภาพเป็นโทนสีเทา ดำ
ทำให้ได้ภาพออกมาดูมีพลังในแบบของโลโมโซนิค และพวกเค้า
อยากจะบอกทุกคนว่า "ถึงเวลา...Lomosonic"